ติดตามเรา:
โทร: +662 751 9695

คำประกาศความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)

สำหรับคู่ค้า คู่สัญญา และผู้ที่เกี่ยวข้อง


ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มบริษัทไทยทากาซาโก กลุ่มบริษัทไทยทากาซาโก ได้กำหนดประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของคู่ค้า คู่สัญญา และผู้ที่เกี่ยวข้อง ไว้ดังนี้

1. ขอบเขตการบังคับใช้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ ดังต่อไปนี้
    1)     คู่ค้า คู่สัญญา และผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา
    2)     2) กรรมการ ผู้รับมอบอำนาจ ผู้แทน ตัวแทน ผู้ถือหุ้น ลูกจ้าง หรือบุคคลอื่นที่มีความสัมพันธ์ในรูปแบบเดียวกันของนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ

2. นิยามและคำจำกัดความ

"“กลุ่มบริษัทไทยทากาซาโก”"
   
(หรือ “บริษัทฯ”) หมายถึง ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ
    เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy
    Notice) นี้ อันประกอบไปด้วยนิติบุคคลดังต่อไปนี้
    (1) บริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด
    (2) บริษัท ไทย ทากาซาโก โฮลดิ้งส์ จำกัด
   
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือ
    เปิดเผย ตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้
   
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง
    หรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

3. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทฯ ได้ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ โดยอยู่ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
    1)     เพื่อดำเนินการหรือบริหารการดำเนินงานของบริษัทฯ ตามสัญญา เช่น การทำสัญญาจ้างทำของ สัญญาซื้อขาย สัญญา บริการ หรือเพื่อการเข้าทำสัญญาดังกล่าว
    2)     การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
    3)     การติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การติดต่อทางธุรกิจทั่วไป เป็นต้น
    4)     เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามคำสั่งศาล รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่ศาลตามหมายเรียกหรือคำสั่งศาล ฯลฯ เป็นต้น

4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
            บริษัทฯ เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
    1)     จากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง เช่น จากสัญญา จากเอกสารประกอบสัญญา จากเอกสารที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ไว้แก่บริษัทเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาเข้าทำสัญญา เป็นต้น
    2)     จากการที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่อยู่ในความดูแลของบริษัทฯ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ตลอดจนการใช้งานบริการอื่นใดของบริษัทฯ เช่น การใช้งานระบบจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทฯ เป็นต้น
    3)     แหล่งอื่นนอกจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลแล้วในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัทฯ เช่น จากผู้ประกอบธุรกิจเป็นนายหน้าหรือตัวแทนจัดหาสินค้าและบริการ เป็นต้น

5. ชนิดและประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
         ในกรณีทั่วไป บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล รายละเอียดและตัวอย่าง
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล ข้อมูลระบุชื่อเรียกของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง ข้อมูลทะเบียนบ้าน เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ข้อมูลการเป็นบุคคลล้มละลาย ข้อมูลการเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ เป็นต้น
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ ข้อมูลเพื่อการติดต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams, อื่น ๆ) เป็นต้น


6. ฐานกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทฯ ได้ใช้ฐานกฎหมายฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐานรวมกันในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและตามบริบทของแต่ละกรณี อันประกอบด้วย
    1)     เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
    2)     เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
    3)     เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
    4)     เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
    5)     ความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

7. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ทำการเก็บรวบรวมไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งหรือได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกใช้และถูกเปิดเผยไปยังบุคคลหรือหน่วยงานดังต่อไปดังนี้
    1)     หน่วยงานของรัฐ เช่น ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมสรรพากร เป็นต้น ตลอดจนหน่วยงานเอกชนอื่นใดซึ่งเป็นผู้ออกเอกสารซึ่งปรากฏข้อมูลส่วนบุคคล
    2)     คู่สัญญา คู่ค้า หรือผู้ให้บริการของบริษัทฯ ซึ่งต้องดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน ผู้ให้บริการซอฟแวร์ ผู้ให้บริการสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้รับเหมาหรือผู้รับเหมาช่วง ผู้ว่าจ้างของบริษัทฯ เป็นต้น
    3)     สิ่งพิมพ์ หน้าเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ซึ่งอยู่ในความดูแลของบริษัทฯ
    3)     บุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัทฯ
    4)     บริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกันเพื่อการประกอบกิจการหรือธุรกิจร่วมกัน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง Takasago Thermal Engineering Co., Ltd. นิติบุคคลตามกฎหมายแห่งประเทศญี่ปุ่น
    5)     บุคคลอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัทฯ

8. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
            ในการดำเนินงานปกติของบริษัทฯ ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลและการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต อาจมีความจำเป็นต้องใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลซึ่งอยู่ในต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ เช่น คู่สัญญา คู่ค้า หรือผู้ให้บริการของบริษัทฯ ตลอดจนบริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกันเพื่อการประกอบกิจการหรือธุรกิจร่วมกันซึ่งอยู่ในต่างประเทศ รวมถึงใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้งานสื่อสารสนเทศและเทคโนโลยี เช่น email, office program, cloud storage, web storage, และ application ฯลฯ เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่มีการตั้ง server อยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศปลายทางหรือองค์การระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลซึ่งไม่เพียงพอหรือไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ พ.ศ. 2562 ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับกฎหมายที่ใช้บังคับในแต่ละประเทศนั้น ๆ

9. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทฯ จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้หรือไม่น้อยกว่าระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด โดยในกรณีทั่วไป ข้อมูลและเอกสารเกี่ยวกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาไว้เท่ากับระยะเวลาเอกสารทางบัญชีซึ่งต้องถูกเก็บรักษาไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันปิดรอบบัญชีหรือจนกว่าจะมีการส่งมอบบัญชี
            ทั้งนี้ บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้เป็นระยะเวลายาวนานกว่ากรณีดังกล่าวข้างต้นได้ หากบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวมีความสำคัญทางกฎหมาย ซึ่งควรต้องเก็บรักษาไว้ไม่น้อยกว่าระยะเวลาซึ่งสามารถใช้พิสูจน์หรือบังคับตามสิทธิได้หรือไม่น้อยกว่ากำหนดอายุความฟ้องคดี

10. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
            บริษัทฯ จะเคารพและปฏิบัติต่อสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด โดยเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
    1)     สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่ได้ให้ความยินยอมไว้ (Right to Withdraw Consent)
    2)     สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to access and obtain a copy)
    3)     สิทธิขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to request to receive, send, and transfer)
    4)     สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (Right to object)
    5)     สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Right to erasure/Right to be forgotten)
    6)     สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restrict processing)
    7)     สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to rectification)
    8)     สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแลในกรณีที่บริษัทฯ ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (Right to file a complaint)

11. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงที่ปลอดภัยเหมาะสมและมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ และจักได้ทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ

12. ข้อมูลบริษัทฯ สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อ
บริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด
อาคารบางนาทาวเวอร์ ซี ชั้นที่ 16
40/12 หมู่ 12 ถ. บางนา-ตราด ก.ม. 6.5
ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
โทร. (+66) 2751-9695 ถึง 9
https://www.thaitakasago.co.th

เอกสารคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของกลุ่มบริษัทไทยทากาซาโก ฉบับนี้ ได้ถูกปิดประกาศไว้ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด (อาคารบางนาทาวเวอร์ ซี ชั้นที่ 16, 40/12 หมู่ 12 ถ. บางนา-ตราด ก.ม. 6.5 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540) และ/หรือ บนเว็บไซต์ https://www.thaitakasago.co.th และ/หรือ แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งอาจมีการทบทวน ยกเลิก หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ในภายหลัง โดยจะได้การแจ้งหรือประกาศให้ทราบต่อไป


แก้ไขล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565