ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562, ประกาศคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล, กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด “บริษัท” ได้กำหนดประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ที่เข้าทำงานในโครงการก่อสร้าง ไว้ดังนี้
1. ขอบเขตการบังคับใช้คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้ใช้บังคับกับข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัท ดังต่อไปนี้
1) ผู้ที่เข้าทำงานในโครงการก่อสร้าง
2) บุคคลอื่นที่บริษัทได้เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล เช่น บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินโดยถือว่าบุคคลที่สามนั้นได้ให้ความยินยอมในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ของผู้ที่ทำงานในโครงการก่อสร้างให้บริษัท
2. นิยามและคำจำกัดความ
“ประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว |
หมายถึง
|
ประกาศของบริษัทไม่ว่าจะเป็นเอกสาร หรือในเว็บไซต์ของบริษัท
|
(Privacy Notice)” |
|
https://www.thaitakasago.co.th/privacy
|
|
“บริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด” |
หมายถึง
|
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ
|
(หรือ “บริษัท”) |
|
เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) นี้
|
|
“เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” |
หมายถึง
|
บุคคลธรรมดาผู้เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล
|
“ท่าน” |
|
ส่วนบุคคลตามคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ฉบับนี้
|
|
“ข้อมูลส่วนบุคคล” |
หมายถึง
|
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรง
|
|
|
หรือทางอ้อมแต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
|
|
“ข้อมูลอ่อนไหว (sensitive data)” |
หมายถึง
|
ข้อมูลส่วนบุคคลตามที่ถูกบัญญัติไว้ในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
|
|
|
ข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ซึ่งได้แก่ ข้อมูลเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็น
|
|
|
ทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติ
|
|
|
อาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม
|
|
|
ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนอง
|
|
|
เดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
|
3. การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน “ท่าน” ในรูปแบบต่างๆ หรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาตของบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลอื่น
3.1 ข้อมูลที่บริษัทเก็บรวบรวมจากท่านโดยตรง
1) เมื่อท่านได้เข้าปฏิบัติงานในโครงการของบริษัท
2) เมื่อท่านเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของบริษัท หรือบริการออนไลน์ของบริษัท
3) เมื่อท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้กับบริษัทด้วยเหตุผลอื่นๆ
4) ถ้าท่านให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ เกี่ยวกับบุคคลอื่นแก่บริษัท (เช่น ข้อมูลของคู่สมรส บุตร บิดา-มารดา) โดยการส่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้บริษัท ท่านให้คำรับรองแก่บริษัทว่า
ท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลเหล่านั้นให้ส่งข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทได้
3.2 ข้อมูลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมจากแหล่งข้อมูลอื่น
3.2.1 บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะแล้วและจากบุคคลอื่นในกิจการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท
3.2.2) บริษัทอาจได้รับข้อมูลเกี่ยวกับท่านจากโครงการก่อสร้างอื่นๆ หรือการดำเนินธุรกิจของบริษัท
3.2.3) ข้อมูลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวมเกี่ยวกับเครือข่ายสังคมออนไลน์ สื่อออนไลน์จะมีข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานของท่านให้แก่บริษัท เช่น รายละเอียดของเนื้อหาที่ท่านเยี่ยมชมและ
มีปฏิสัมพันธ์ด้วย เช่น เมื่อท่านใช้เว็บไซต์ของบริษัท บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเยี่ยมชมของท่านเช่น ซอฟต์แวร์เบราว์เซอร์ของท่านจากหน้าเพจที่ท่านเยี่ยมชม
4. วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ได้ดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์หลายประการ โดยอยู่ภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
1) เพื่อเก็บรักษาและปรับปรุงข้อมูลอันเกี่ยวกับท่านรวมทั้งเอกสารที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
2) วิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการของบริษัท
3) เพื่อสืบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาท ป้องกัน ตรวจจับ หลีกเลี่ยง และตรวจสอบการฉ้อโกง การละเมิดความปลอดภัย หรือการกระทำที่ต้องห้าม หรือผิดกฎหมาย
และอาจเกิดความเสียหายต่อทั้งบริษัท และท่าน
4) การยืนยันตัวตน พิสูจน์ตัวตนและตรวจสอบข้อมูลเมื่อท่านเป็นผู้ซึ่งมีความสัมพันธ์กับบริษัท หรือใช้สิทธิตามกฎหมาย
5) การประเมินและบริหารจัดการความเสี่ยง
6) การติดต่อสื่อสารและแจ้งข่าวสารไปยังท่าน
7) เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย ประกาศ คำสั่งที่มีผลบังคับใช้ หรือการดำเนินการเกี่ยวกับคดีความ การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลตามคำสั่งศาล
รวมถึงการใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลของท่าน
8) ดูแลความสงบเรียบร้อย รักษาความปลอดภัย ป้องกัน หรือหยุดยั้งอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพ หรือทรัพย์สินของบุคคล
9) เพื่อให้ข้อมูลแก่หน่วยงานราชการตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามที่หน่วยงานรัฐร้องขอ
10) เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการภายในของบริษัท เช่น ทำแผนผังการทำงาน, ทะเบียนประวัติพนักงานในโครงการก่อสร้างเพื่อวิเคราะห์ สอบข้อเท็จจริง
จัดการตัดสินใจในเรื่องความปลอดภัยใดๆ หรือช่องโหว่ใดๆ
11) เพื่อวัตถุประสงค์ใด ๆ ซึ่งเกี่ยวข้องตามสมควรกับวัตถุประสงค์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น
บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการดำเนินการด้านการบริหารงานและการประกอบธุรกิจของบริษัท และการปฏิบัติตามนโยบายและขั้นตอนภายใน
โดยบริษัทจะประมวลผลข้อมูลโดยอาศัยฐานแห่งประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย
5. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม
บริษัท เก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1) จากท่านโดยตรง เช่น ใบลงทะเบียนประวัติประจำโครงการก่อสร้าง เป็นต้น
2) แหล่งอื่นนอกจากท่านโดยที่แหล่งข้อมูลดังกล่าวมีอำนาจหน้าที่ มีเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายหรือได้รับความยินยอมจากท่านแล้ว
ในการเปิดเผยข้อมูลแก่บริษัท เช่น
นายจ้างของท่านเป็นต้น
6. ชนิดและประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัท เก็บรวบรวม
ในกรณีทั่วไป บริษัท จะเก็บรวบรวมหรือได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้
ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลที่มีความจำเป็นในแต่ละกรณีและตามความจำเป็น อาจเป็นผลให้บริษัทบริษัทไม่สามารถสามารถปฏิบัติตามกฎหมายหรือสัญญา
หรือเข้าทำสัญญากับท่านดังกล่าวได้ทั้งหมดหรือบางส่วน
ประเภทข้อมูลส่วนบุคคล |
รายละเอียดและตัวอย่าง |
ข้อมูลเฉพาะตัวบุคคล |
ข้อมูลระบุชื่อเรียกของท่านหรือข้อมูลจากเอกสารราชการที่ระบุข้อมูลเฉพาะตัวของท่าน
เช่น คำนำหน้าชื่อ ชื่อ นามสกุล ชื่อกลาง ชื่อเล่น ลายมือชื่อ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน สัญชาติ สถานภาพ สมรส เลขที่ใบขับขี่ เลขที่หนังสือเดินทาง (Passport) ข้อมูลทะเบียนบ้าน ข้อมูลใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ข้อมูลการเป็นผู้ประกันตน เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณลักษณะของบุคคล |
ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับตัวท่านเช่น วันเดือนปีเกิด เพศ ส่วนสูง น้ำหนัก อายุ รูปถ่าย ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ภาษาพูด ข้อมูลพฤติกรรม เป็นต้น |
ข้อมูลสำหรับการติดต่อ |
ข้อมูลเพื่อการติดต่อท่านเช่น เบอร์โทรศัพท์บ้าน เบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ หมายเลขโทรสาร อีเมล ที่อยู่ ชื่อผู้ใช้งานในสังคมออนไลน์ (Line ID, MS Teams, อื่น ๆ) แผนที่ตั้งของที่พัก เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน |
รายละเอียดเกี่ยวกับการประวัติการทำงานในโครงการก่อสร้าง เช่น ตำแหน่ง หน้าที่ความรับผิดชอบ รหัสพนักงานหรือลูกจ้าง ตำแหน่ง แผนก สังกัด สายการบังคับบัญชา
การประเมินผลการปฏิบัติงาน พฤติกรรมในการทำงาน ผลงาน ข้อมูลการฝึกอบรม ข้อมูล
การลงโทษทางวินัย ใบลาออกจากการเป็นพนักงานหรือลูกจ้าง เป็นต้น |
ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อออนไลน์ หรือข้อมูลจราจรทางอิเล็กทรอนิกส์ |
หลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในแพลตฟอร์ม เช่น Zoom, Line Meeting, Microsoft Teams, Google Meet รวมถึงการบันทึกเสียง หรือทั้งเสียง
และภาพ ของผู้ร่วมประชุมทุกคนตลอดระยะเวลาที่มีการประชุม ทั้งนี้ เป็นไปตามประกาศกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่อง มาตรฐานการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ของการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 ออกตามพระราชกำหนดว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2563 |
ข้อมูลเกี่ยวกับการเงินและประกันภัย |
ข้อมูลกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ |
ข้อมูลอ่อนไหว (Sensitive Data) |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความละเอียดอ่อนของท่านเช่น ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลชีวภาพ
และข้อมูลที่เกิดจากการใช้เทคนิค หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการนำลักษณะเด่น
ทางกายภาพหรือทางพฤติกรรมของบุคคลมาใช้ทำให้สามารถยืนยันตัวบุคคลได้
(เช่น ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า, ลายพิมพ์นิ้วมือ) ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงหมู่โลหิต
และโรคประจำตัว ใบรับรองแพทย์ ผลการตรวจร่างกายก่อนการทำงาน เป็นต้น |
ข้อมูลอื่น ๆ |
ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับนายจ้างหรือผู้ที่เป็นหัวหน้างาน ผู้ที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน รวมทั้ง ข้อมูลส่วนบุคคลอื่นที่จัดเก็บตามวัตถุประสงค์และที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน
และกิจการของบริษัท |
7. ฐานกฎหมาย และฐานสัญญาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทฯ ได้ใช้ฐานกฎหมายฐานใดฐานหนึ่งหรือหลายฐานรวมกันในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลตามความเหมาะสมและตามบริบทของแต่ละกรณี
อันประกอบด้วย necessary ineach context:
1) เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (Lawful basis)
2) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย (Legitimate interest)
3) เป็นการจำเป็นเพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
4) เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
5) ความยินยอมของท่าน
8. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้หลักเกณฑ์ของ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไปให้บุคคลใด โดยปราศจากความยินยอม และบริษัทอาจเปิดเผย
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้ทำการเก็บรวบรวมไว้ เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งหรือได้รับความยินยอมจากท่านหรือด้วยเหตุอันชอบด้วยกฎหมายซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลอาจถูกใช้และถูกเปิดเผย
ไปยังบุคคลหรือหน่วยงาน
ดังต่อไปดังนี้
1) หน่วยงานของรัฐ เช่น ศาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน กรมการปกครอง กรรมสรรพากร เป็นต้น ตลอดจนหน่วยงานเอกชนอื่นใดซึ่งเป็นผู้ออกเอกสารซึ่งปรากฏ
ข้อมูลส่วนบุคคล
2) คู่สัญญา คู่ค้า หรือผู้ให้บริการของบริษัท ซึ่งต้องดำเนินการใดๆ อันเกี่ยวข้องกับท่านเช่น ธนาคาร สถาบันการเงิน โรงพยาบาล บริษัทประกันภัย ผู้ให้บริการซอฟแวร์ ผู้ให้บริการ
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผู้รับเหมาหรือผู้รับเหมาช่วง ผู้ว่าจ้างของบริษัท เป็นต้น
3) สิ่งพิมพ์ หน้าเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือสื่อสังคมออนไลน์ของบริษัท
4) บริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจเดียวกันเพื่อการประกอบกิจการหรือธุรกิจร่วมกัน
5) บุคคลอื่นใดที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้แก่บริษัท
9. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ
ในการดำเนินงานปกติของบริษัท ซึ่งมีการใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลและการติดต่อสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต อาจมีความจำเป็นต้องใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลด้วยการส่ง
หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลซึ่งอยู่ในต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ
เช่น คู่สัญญา คู่ค้า หรือผู้ให้บริการของบริษัท ตลอดจนบริษัทในเครือกิจการหรือเครือธุรกิจ
เดียวกันเพื่อการประกอบกิจการหรือธุรกิจร่วมกันซึ่งอยู่ในต่างประเทศ รวมถึงใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเกิดขึ้นจากการใช้งานสื่อสารสนเทศและเทคโนโลยี เช่น email,
office program, cloud storage, web storage, และ application ฯลฯ เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่มีการตั้ง server อยู่ในต่างประเทศ ทั้งนี้ ประเทศปลายทางหรือองค์การ
ระหว่างประเทศที่รับข้อมูลส่วนบุคคลอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลซึ่งไม่เพียงพอ
หรือไม่สอดคล้องกับ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ พ.ศ. 2562 ก็ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ
กฎหมายที่ใช้บังคับในแต่ละประเทศนั้น ๆ
10. ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่ข้อมูลดังกล่าวจำเป็นต่อการบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้
ในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว
(Privacy Notice) นี้ หรือเท่ากับระยะเวลาการทำงานโครงการก่อสร้าง และระยะเวลาการก่อสร้างที่ถูกขยายออกไป จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลาตามสัญญาในโครงการก่อสร้าง
อย่างไรก็ดี เมื่อนิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทได้สิ้นสุดลง หรือนับแต่มีการทำธุรกรรมกับบริษัท หรือกรณี หรือท่านขอยกเลิก
การใช้บริการ บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตาม
ระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภท
และวัตถุประสงค์ตามที่ พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กำหนดและจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ตามอายุความ หรือระยะเวลา
ที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด (เช่น กฎหมายการบัญชี กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่นที่บริษัทต้องปฏิบัติตาม
ทั้งในประเทศไทย
และต่างประเทศ) นอกจากนี้ บริษัทอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมที่
มีความน่าสงสัยของท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องแจ้งมายังบริษัท หลังจากระยะเวลาดังกล่าวบริษัทอาจทำลายข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ต้องแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า
11. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท จะเคารพและปฏิบัติต่อสิทธิของท่านอย่างเคร่งครัด โดยท่านมีสิทธิตามกฎหมายภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
1) สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล (Right to access and obtain a copy)
2) สิทธิขอรับ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคล (Right to request to receive, send, and portability)
3) สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย (Right to object)
4) สิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (Right to erasure / Right to be forgotten)
5) สิทธิขอระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล (Right to restrict processing)
6) สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล (Right to rectification)
7) สิทธิในการถอนความยินยอม ในกรณีที่ได้ให้ความยินยอมไว้ (Right to Withdraw Consent)
8) สิทธิในการร้องเรียนต่อหน่วยงานผู้มีอำนาจกำกับดูแลในกรณีที่บริษัท ละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (Right to file a complaint)
12. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงที่ปลอดภัยเหมาะสมและมีมาตรฐานไม่ต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด และทบทวนมาตรการดังกล่าวเมื่อมีความจำเป็นหรือเมื่อเทคโนโลยี
เปลี่ยนแปลงไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม อย่างสม่ำเสมอ รวมถึง
1) ใช้มาตรการทางเทคนิค หรือทางกายภาพ และการบบริหารงานอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจาก
อำนาจหรือโดยมิชอบ
2) การจำกัดการเข้าถึงข้อมูล และการใช้เทคโนโลยีการบริหารจัดการข้อมูลประจำตัวและการเข้าถึง เพื่อควบคุมการเข้าถึงระบบต่าง ๆ
ที่มีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูล
3) จัดให้มีการป้องกันทางกายภาพ อิเล็กทรอนิกส์ และเป็นขั้นตอนตามที่มาตรฐานอุตสาหกรรมกำหนด
4) กำหนดให้พนักงานทุกคนได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลอย่างครบถ้วน
5) ตรวจสอบและทบทวนแนวปฏิบัติของเราเป็นประจำตามนโยบายของเราเองและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของอุตสาหกรรม
13. การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว
บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว ฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
และตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด
โดยบริษัทจะแจ้งประกาศฯ ฉบับปรับปรุง ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท ที่ปรากฎในคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ทั้งนี้
บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการ
เปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวเป็นระยะ
14. ข้อมูลบริษัทฯ สถานที่ติดต่อ และวิธีการติดต่อ
ถึง : ฝ่ายกฎหมาย
อีเมล : ttc_legal@tte-net.com
บริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด
อาคารบางนาทาวเวอร์ ซี ชั้นที่ 16
40/14 หมู่ 12 ถ. บางนา-ตราด ก.ม. 6.5
ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
โทร. (+66) 2751-9695 ถึง 9
https://www.thaitakasago.co.th
เอกสารคำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) ของกลุ่มบริษัทไทยทากาซาโก ฉบับนี้ ได้ถูกปิดประกาศไว้ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัท ไทยทากาซาโก จำกัด (อาคารบางนาทาวเวอร์ ซี ชั้นที่ 16, 40/14 หมู่ 12 ถ. บางนา-ตราด ก.ม. 6.5 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540) และ/หรือ บนเว็บไซต์ https://www.thaitakasago.co.th และ/หรือ แจ้งแก่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลโดยตรง ซึ่งอาจมีการทบทวน ยกเลิก หรือแก้ไขเพิ่มเติมได้ในภายหลัง โดยจะได้การแจ้งหรือประกาศให้ทราบต่อไป
Latest Updated on 18th August 2025.